มวย one “มวย” ถือเป็นอีกหนึ่งเกมส์กีฬาหรือศิลปะการต่อสู้ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี และได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ONE CHAMPIONSHIP ในบ้านเราเองก็ได้มีการจัดแข่งขันการชกมวยอยู่ด้วยกันหลายสังเวียน ซึ่งหากใครได้ติดตามการแข่งขันชกมวยระดับเอเชีย มวย one championship หรือระดับโลกนั้นคงจะคุ้นหูกับชื่อของ “ONE CHAMPIONSHIP” อย่างแน่นอน
ONE CHAMPIONSHIP คือทัวร์นาเมนต์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่เรียกว่า มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต (MMA)
มวย one โดยมีลูกกรงล้อมรอบเวที ซึ่งคนไทยรู้จักกันในชื่อว่า “มวยกรง” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ เริ่มจัดแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ และได้มีการการเดินทางไปจัดการแข่งขันในหลายประเทศ ในแถบเอเชีย มวย one championship
ถือเป็นองค์กรที่จัดการแข่งขันมาร์เชียลอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วย มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, คาราเต้, กังฟู, สีลัต, ซานด้า, เลธเว่ย, มิกซ์ มาร์เชียลอาร์ต เทควันโด้, ซับมิสชั่น แกรปปลิ้ง และอื่นๆอีกมากมาย วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้แพร่ภาพออกอากาศผ่านช่องสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกทั้งยังได้เผยแพร่ออกสู่สายตาผ้ชมกว่า 1.7 พันล้านคน ในกว่า 138 ประเทศทั่วโลก ONE CHAMPIONSHIP
จุดเริ่มต้นของ One Championship มาจากคนไทย
อดีตนักมวยระดับอาชีพสายเลือดไทย-ญี่ปุ่น และนักธุรกิจที่มีความสนใจในศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทัวร์นาเมนต์ รวมถึงการส่งเสริมนักสู้จากเอเชีย และนักสู้จากประเทศไทย ให้ได้มีโอกาสแสดงความสามารถบนเวทีมวยระดับเอเชียอีกด้วย
การแข่งขัน ONE CHAMPIONSHIP คือการนำนักสู้ขึ้นมาห้ำหั่นกันบนเวที ที่ล้อมด้วยลูกกรง เน้นการแข่งขันแบบเกมส์กีฬาเป็นหลัก นักสู้มีความเคารพกัน ไร้ความหยาบคายเลือดสาดบนเวทีแห่งนี้ โดยใช้กติกาสากลแบบเดียวกัน แข่งกันภายใน 3 ยก ยกละ 5 นาที แต่หากเป็นรายการที่มีการชิงเข็มขัดแชมป์ก็จะเพิ่มเป็น 5 ยก ปัจจุบันก็มีนักสู้มากมายทั้งชายและหญิงจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมชิงความเป็นหนึ่งกันอย่างคับคั่ง และสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นชกในทุกเดือน ONE CHAMPIONSHIP
โดยได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว 4 ครั้ง โดยในวันที่ 6 ตุลาคม 2018 จะเป็นการจัดการแข่งขัน “ONE CHAMPIONSHIP” ครั้งที่ 5 ในประเทศไทยโดยใช้ชื่อว่า “KINGDOM OF HEROES” จัดขึ้นที่ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี
ที่ชื่อว่า “ชาตรี ตรีศิริพิศาล” หรือที่หลายคนคุ้นชื่อว่า “ชาตรี ศิษย์ยอดธง”คุณชาตรี เกิดเมื่อปี 1971 ในครอบครัวฐานะดี มีพ่อเป็นคนไทย ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และมีแม่เป็นคนญี่ปุ่น
คุณชาตรี ได้รู้จักกับมวยไทย ตั้งแต่วัย 9 ขวบ จากการที่พ่อของเขา ได้พาไปชมการแข่งขันมวยที่สนามลุมพินี ซึ่งก็ทำให้เขาชื่นชอบกีฬามวยตั้งแต่นั้นมา
จนกระทั่งในวัย 13 ปี คุณชาตรี ก็ได้มีโอกาสเรียนมวยกับทางค่ายศิษย์ยอดธง ซึ่งเป็นค่ายมวยที่มีชื่อเสียงในเวลานั้น
โดยเขาใช้เวลาฝึกซ้อมราว 2 ปี ก่อนที่จะมีการขึ้นชกเพื่อการแข่งขันโดยสถิติการชกทั้งหมด 30 ไฟต์ เขาสามารถเอาชนะได้ถึง 22 ไฟต์ เลยทีเดียวต่อมา คุณชาตรีก็ได้ศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ที่ Tufts University ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อจบการศึกษา เขาก็ได้กลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทยอีกครั้งแต่แล้วในปี 1997 วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งก็เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับธุรกิจครอบครัวของคุณชาตรีถึงขั้นล้มละลาย
ซึ่งก็ทำให้ทรัพย์สินของครอบครัวของเขาได้ถูกยึดไปจนหมดในเวลาต่อมา พ่อของเขายังได้ทิ้งครอบครัว แล้วหนีไปอีกด้วย มวย one championship
แถมยังเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เขาวางแผนจะศึกษาต่อพอดีแม้ว่าสถานการณ์ของครอบครัวขณะนั้นจะยากลำบาก แต่แม่ของคุณชาตรีก็ยังเห็นความสำคัญของการศึกษา โดยเธอมีส่วนในการผลักดันคุณชาตรี จนสามารถสอบเข้าเรียนในระดับปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ ที่ Harvard Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ คุณชาตรีได้กลับไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง โดยเขาต้องกู้ยืมเงินจากธนาคาร เพื่อนำมาจ่ายค่าเทอม รวมถึงต้องทำงานพิเศษหาเลี้ยงชีพไปด้วย เช่น รับจ้างสอนมวย และพนักงานส่งอาหาร
ภายหลังจากจบการศึกษา คุณชาตรีกับเพื่อนร่วมกันก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ ชื่อว่า NextDoor Networks ซึ่งนับว่าธุรกิจไปได้สวย จนสามารถระดมทุนได้ราว 1,200 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม คุณชาตรีก็ได้ตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองออกไป เพื่อเบนเข็มไปเป็นผู้จัดการกองทุน Maverick Capital กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การลงทุน 500,000 ล้านบาท ONE CHAMPIONSHIP ก่อนที่จะมาเริ่มก่อตั้งบริษัทจัดการกองทุนของตัวเองที่ชื่อว่า Izara Capital Management ซึ่งประสบความสำเร็จมาก แน่นอนว่า ความสำเร็จในหน้าที่การงานก็ได้สร้างความมั่งคั่งให้กับเขาอย่างมาก แต่ในอีกด้านหนึ่ง คุณชาตรีเองก็มีความฝันอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ มวย one championship
ด้วยการเติบโตที่ก้าวกระโดดของ One Championship ก็ได้ดึงดูดนักลงทุนมากมายให้เข้ามาร่วมลงทุนด้วย
โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “Heliconia Capital Management”บริษัทในกลุ่มของ “Temasek Holdings” กองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์จนมาถึงปี 2021 One Championship มีการระดมทุนอีกครั้งจาก Guggenheim Investments รวมถึง The Qatar Investment Authority หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติกาตาร์ คิดเป็นเงินเกือบ 5,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน One Championship ถูกประเมินมูลค่าบริษัท อยู่ที่ราว 33,000 ล้านบาท มวย one championship
หรือพูดได้ว่า One Championship กลายเป็นยูนิคอร์นเป็นที่เรียบร้อยแล้วปัจจุบัน One Championship เป็นชื่อทางการค้าในการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของบริษัท Group One Holdings โดยมีการเผยแพร่การแข่งขันไปกว่า 150 ประเทศ มีผู้รับชมกว่า 2,700 ล้านคนทั่วโลกนอกจากการแข่งขันภายใต้กติกาของ MMA แล้ว ยังมีการแข่งขันภายใต้กติกามวยไทย และคิกบ็อกซิง รวมถึงยังมีการขยายธุรกิจไปยัง E-sports อีกด้วย
เราลองมาดูรายได้ ที่ผ่านมา
- ปี 2017 รายได้ 410 ล้านบาท
- ปี 2018 รายได้ 664 ล้านบาท
- ปี 2019 รายได้ 1,156 ล้านบาท
- คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 68% ต่อปี
แล้วรายได้ของ One Championship มาจากช่องทางไหนบ้าง ?
- ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 72.1%
- ค่าโฆษณา 22.6%
- ตั๋วเข้าชม 3.8%
- อื่น ๆ 1.5%