Search
Close this search box.

กว่าจะถึงวันนี้ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ”

ซิงกิซ อัลลาซอฟ สุดยอดนักคิก บ็อกซิ่ง ระดับโลก ออกมาเปิดเผยว่าอาจตัดสินใจยุติสัญญากับ ONE Championship จากเหตุผลส่วนตัว แม้ปัจจุบันเขาจะครองเข็มขัดแชมป์โลก คิก บ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ก็ตาม

โดย “บียอนด์ คิกบ็อกซิ่ง” สื่อแวดวงการต่อสู้ชั้นนำ ออกมาเปิดเผยบทสัมภาษณ์ของนักสู้ชาวเบลารุส ว่า “ONE มีนักสู้ที่เก่งที่สุดมากมายในรุ่นของผม แต่สัญญาที่ผมทำไว้กับ ONE ผมไม่ชอบมันสักเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากขอบคุณโอกาสดีดีที่ ONE Championship ให้มาเสมอ” one championship

“การตัดสินใจหนนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่มันคือการใส่ใจในหัวใจของผม ตำแหน่งที่ผมยืนอยู่ และความฝันทั้งสิ้น ผมต้องการเดินหน้าไปตามความฝันต่อในความท้าทายใหม่ๆ จึงเป็นเหตุผลที่ผมอาจจะขอยุติสัญญากับ ONE” มวย one championship

ซิงกิซ อัลลาซอฟ  อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์จากฝั่งของ ชิงกิซ อัลลาซอฟ คนเดียวเท่านั้น แต่ ณ เวลานี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาจาก ONE Championship ของ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ถึงกรณีดังกล่าวสำหรับ ชิงกิซ อัลลาซอฟ กำปั้นวัย 30 ปี ชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิก บ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มาจาก ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2023 ก่อนที่ไฟต์ล่าสุดของเขาคือการป้องกันแชมป์ของตัวเอง ด้วยการเอาชนะคะแนน มารัต กริกอเรียน เมื่อเดือนสิงหาคม 2023

“Chinga” ชิงกิซ อัลลาซอฟ แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ชาวเบลารุสมีคิวขึ้นป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับ “มารัต กริกอเรียน” ยอดฝีมือจากอาร์เมเนีย ดีกรีผู้ท้าชิงแรงกิ้งอันดับ 2 ในศึก ONE FIGHT NIGHT 13: ชิงกิซ vs มารัต ณ สังเวียนลุมพินี ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 5 ส.ค.66

ชื่อของ “ชิงกิซ” เป็นที่จดจำของแฟนกีฬาชาวไทยเป็นอย่างดีจากการยัดเยียดความปราชัยให้กับ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ถึงถิ่น จนเถลิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ได้สำเร็จในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ก่อนที่ “ชิงกิซ” จะมาถึงจุดนี้ได้ แน่นอนว่าเส้นทางของเขาต้องล้มลุกคลุกคลานไม่น้อย ที่สำคัญยังต้องเผชิญกับความผิดหวังตั้งแต่ไฟต์แรกที่เปิดตัวบนสมรภูมิ ONE

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2564 “ชิงกิซ” ได้โอกาสเปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE on TNT I เขาต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือจากเยอรมนี “The Hurricane” เอ็นริโก เคห์ล แม้ไฟต์นั้นผลการชกจะไม่เป็นใจ โดย “ชิงกิซ” เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ แต่ด้วยลีลาการออกหมัดสาดแข้งที่รวดเร็วน่าเกรงขาม กลับกลายเป็นที่โจษจันและการันตีว่าเขาพอที่จะเทียบชั้นกับเหล่าบรรดาตัวท็อปของวงการได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร

กลับมาครั้งใหม่ไฉไลกว่าเดิม

จากความพ่ายแพ้ในวันนั้นทำให้ “ชิงกิซ” รู้ดีว่าชัยชนะบนสมรภูมิ ONE ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคู่ต่อสู้ทุกรายล้วนเป็นมือฉมังของวงการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ “ชิงกิซ” ต้องมุ่งมานะฝึกฝนมากกว่าทุกครั้ง กระทั่งได้รับโอกาสตบเท้าเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งด่านแรกที่เขาต้องเผชิญหน้าก็คือ “AK-47” เซมี ซานา หนุ่มก้านยาวชาวฝรั่งเศสในศึก ONE: First Strike เมื่อเดือนตุลาคม 2564

บทเรียนราคาแพงจากครั้งที่แล้วทำให้ครั้งนี้ “ชิงกิซ” เดินหน้าไล่กระหน่ำอาวุธตั้งแต่เสียงระฆังดังในยกแรก ก่อนจะใช้เวลาเพียง 39 วินาที ปิดบัญชียอดฝีมือจากแดนน้ำหอมชนิดเหนือความคาดหมาย ผ่านเข้ารอบพร้อมกับแจ้งเกิดบนสังเวียน ONE ได้อย่างงดงาม one championship

ราบคู่แค้น ครองแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์

“ชิงกิซ” ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ โดยต้องโคจรมาพบกับ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ผู้เคยยัดเยียดความปราชัยให้กับเขาเมื่อปี 2557 แต่ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนหนังม้วนเดิม “ชิงกิซ” เวอร์ชันร่างทองชกได้อย่างสุขุมและมีอาวุธหมัดคอยเล่นงานจนนักสู้ชาวไทยทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปแบบไร้ข้อกังขา สะสางแค้นที่ฝังลึกมาตลอด 9 ปี คว้าเข็มขัดเส้นแรกมาคาดเอวได้อย่างภาคภมูิใจ และนั่นคือบันไดก้าวแรกที่ส่งให้เขาได้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มวย one championship

ชัยชนะที่ทำให้โลกรู้จัก “ชิงกิซ อัลลาซอฟ”

ละแล้วโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตก็มาถึง ในศึก ONE FIGHT NIGHT 6 ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับราชันผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่น ณ เวลานั้นอย่าง “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” เจ้าของแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต

แม้จะตกเป็นรองอยู่หลายขุมทั้งสถานที่และเสียงเชียร์ แต่ทว่า “ชิงกิซ” ก็ทำในสิ่งที่แฟนมวยทั้ง อิมแพค อารีนา ในวันนั้นต้องช็อก เมื่อเขาไล่อัด “ซุปเปอร์บอน” จนสิ้นลายพ่ายน็อกไปในยกที่ 2 เถลิงบังลังก์แชมป์โลกแบบช็อกโลก one championship

แม้จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ได้สำเร็จแต่ภารกิจของ “ชิงกิซ” ยังไม่จบอยู่แค่นี้ เพราะเขาต้องทำในสิ่งที่ยากกว่านั่นคือการรักษาตำแหน่งให้อยู่กับเขาไว้ได้นานที่สุดเท่าที่ยอดนักสู้เคราเข้มมาดขรึมรายนี้จะทำได้ และปราการด่านแรกที่เขาต้องเผชิญหน้าก็คือ “มารัต กริกอเรียน” ยอดฝีมือจากอาร์เมเนีย ผู้ที่เคยยัดเยียดความปราชัยให้เขาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มวย one championship

งานนี้สุภาษิตที่ว่า “ลูกผู้ชาย 10 ปี ล้างแค้นยังไม่สาย” จะใช้ได้กับ “ชิงกิซ” หรือไม่ “มารัต” จะเป็นผู้ให้คำตอบในศึก ONE FIGHT NIGHT 13: ชิงกิซ vs มารัต ที่จะคัมแบ็กกลับมาจัด ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) อีกครั้ง

บทความแนะนำ